การช่วยคนอื่นกู้บ้านจะส่งผลกับเราอย่างไร
การช่วยคนอื่นกู้บ้านจะส่งผลกับเราอย่างไร
สมมุติ
ธนาคารบอกว่าเราสามารถผ่อนบ้านได้ไม่เกิน $5000 ต่อเดือน
บ้านที่เราอยากได้นั้นเราจะต้องผ่อนทั้งหมด $3000
แต่เราเคยช่วยให้คนอื่น ผ่อนบ้านไปแล้ว ซึ่งมันเดือนละ $3000
เท่ากับว่าเราสามารถผ่อนบ้านที่เราต้องการได้แค่ $2000
ธนาคารไม่ได้สนใจนะคะว่าเราจะอยู่บ้านหลังนั้นหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเราจะพยายามเถีนงธนาคารให้ตาย ถ้าเกิดว่าชื่อเรามันติดอยู่กับสินเชื่อของบ้านหลังนั้นแล้ว เท่ากับว่าค่าใช้จ่ายนั้นก็เป็นค่าใช้จ่ายของเราด้วย
อยากเอาชื่อออกจากบ้านที่เคยช่วยคนอื่นกู้ จะต้องทำยังไง
1. คนที่เราไปช่วยกู้ร่วมนั้นจะต้องทำการรีไฟแนนซ์เพื่อเอาชื่อเราออกไปค่ะ ข้อเสียก็คือว่าถ้าหากดอกเบี้ยในตอนนี้สูงกว่าดอกเบี้ยตอนนั้น (ตอนที่ซื้อให้คนที่เราไปช่วยกู้ร่วม) อาจจะมีความไม่อยากที่จะรีไฟแนนซ์ หรืออีกอย่างถ้าคนที่เราไปช่วยกู้นั้นไม่สามารถที่จะกู้คนเดียวได้เท่ากับว่าชื่อเราก็จะติดอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆค่ะ
2. ต้องขายบ้านหลังนั้นทิ้งเพื่อเอาชื่อเราออกไป
3. อาจจะหาคนมาเช่าบ้านหลังนั้นเพื่อที่เราจะได้มีเงินมาcover mortgage ของหลังนั้น
ถ้าหากว่าเราไม่สามารถนำชื่อออกจากบ้านหลังที่เราเคยไปช่วยกู้ร่วมได้ ต้องทำดังนี้ค่ะ
1. จะต้องส่งหลักฐานว่าคนที่เรากู้ให้นั้น จ่ายค่าผ่อนบ้านเองมาแล้วอย่างน้อย 12 เดือน
2. ถ้าหากว่าเราติดต่อคนที่เราช่วยกู้ร่วมให้ไม่ได้ก็อาจจะซวยไปค่ะ
3. ถ้าหากว่าคนที่เรากู้ร่วมนั้นไม่ยอมให้ความร่วมมือไม่ยอมส่งเอกสารเข้ามาเท่ากับว่าเราก็ซวยซ้ำสองไปค่ะ
จะเกิดอะไรขึ้นในตอนที่เราต้องการที่จะไปกู้เอง
1. ธนาคารจะขอเอกสารเช่น mortgage statement +ประกันบ้านและภาษีบ้านของหลังที่เราไปช่วยกู้ร่วม ลองนึกดูว่าถ้าเกิดเคยไปช่วยคนกู้ร่วมมาแล้วประมาณ5 หลังเท่ากับว่าเราจะต้องส่งเอกสารของทั้ง5 หลังนะคะ
2. ถ้าเกิดว่าบ้านหลังนั้นมีคนเช่าไปแล้วก็จะต้องขอสัญญาการเช่าบ้าน ค่าไฟที่มีชื่อของผู้เช่า หรือเช็คการจ่ายค่าเช่าที่ผ่านผ่านมา เช่น จากในสเตทเม้นท์ของเรา 12 เดือนย้อนหลัง
ยังไงจะกู้ร่วมกับใครหรือจะช่วยใครกู้ก็ดูกันดีๆหน่อยนะคะไม่อยากให้ต้องมาปวดหัวในภายหลัง